10/08/2552

ไหว้พระพุทธไสยาสน์ศักดิ์สิทธิ์ องค์ใหญ่ที่สุดของเมืองไทย ที่วัดพระนอนจักรสีห์ สิงห์บุรี




เมืองสิงห์บุรีเป็นเมืองเก่า มีป้อมปราการวัง วัดมหาธาตุ และมีของสำคัญคู่บ้านคู่เมืองสิงห์บุรี คือ พระพุทธไสยาสน์ หรือองค์พระนอนจักรสีห์ ซึ่งมีขนาดใหญ่ยาวกว่าพระนอนองค์อื่นๆ ของไทยลักษณะเป็นแบบพระนอนอินเดีย กรขวาศอกยื่นไปทางด้านหน้าไม่ทำงอ พระกรตั้งขึ้น รับพระเศียรแบบพระนอนไทย เป็นพระพุทธรูปเก่าแก่และสำคัญของเมืองไทยอีกองค์หนึ่งครับ

วัดพระนอนจักรสีห์ เป็นพระอารามหลวงชั้นตรีชนิดวรวิหาร สภาพที่เป็นอยู่เมื่อปี พ.ศ. 2421 จากพระราชนิพนธ์เรื่อง ระยะทางเสด็จประพาสมณฑลอยุธยา มีว่า วัดนี้อยู่ ห่างแม่น้ำสามสิบวา เป็นที่ลุ่มน้ำท่วม ต้องทุบถนนและมีสะพานข้าม รอบวิหารพระนอนมีกำแพงแก้วเตี้ย ๆ ชั้นหนึ่ง ตัวพระวิหาร ยาว 1 เส้น 7 วา กว้าง 11 วา เสาข้างในเป็นแปดเหลี่ยม อาคารที่พระพุทธไสยาสน์บรรทม ไม่เหมือนอย่างกรุงเก่า หรือกรุงเทพ ฯ พระกรทอดออกไปมากเพราะเขนยหนุนไม่สู้ชันนัก เป็นบรรทมราบ แต่พระบาทซ้อนกันตรงเหมือนอย่างพระนอนทั้งปวง

พระพุทธไสยาสน์องค์นี้ เป็นพระพุทธรูปปางนอนที่ใหญ่และยาวที่สุดของประเทศ สร้างมานานเก่าแก่จนไม่ทราบ แน่ชัดว่ามีประวัติความเป็นมาอย่างไร สันนิษฐานว่าสร้างก่อนตั้งกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี องค์พระ หันพระเศียรไปทางทิศตะวันออก ความยาว 1 เส้น 3 วา 2 ศอก 1 คืบ 7 นิ้ว หรือประมาณ 46 เมตร
หลักฐานที่มีอยู่คือ พระเจ้าอยู่หัวบรมโกศได้เสด็จพระราชดำเนินไปทรงนมัสการ เมื่อปีจอ ฉศก จุลศักราช 1111 ซึ่งตรงกับปี พ.ศ. 2297 และได้เสด็จไปอีกครั้งเมื่อปี พ.ศ. 2299 เพื่อสมโภชฉลอง ต่อมาสมัย กรุงรัตนโกสินทร์ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้า ฯ ได้เสด็จไปทรงนมัสการ เมื่อปี พ.ศ. 2421 ในครั้งนั้น พระวิหารและพระนอนชำรุดทรุดโทรมมาก เนื่องจากขาดการบูรณะปฏิสังขรณ์มานาน พระธรรมไตรโลก (อ้น) วัดสุทัศน จึงได้ทำการปฏิสังขรณ์ แล้วเสร็จในปี พ.ศ. 2428 และการปฏิสังขรณ์ครั้งล่าสุดทำเมื่อปี พ.ศ. 2510

ภายในตัววัดด้านใน จัดได้อย่างเป็นสัดส่วน ทางด้านหน้าเป็นทางรถสี่เลนส์ ตรงไปยังอาคารที่จอดรถที่จัดไว้อย่างกว้างขวาง ตลอดแนวถนนมีศาลานั่งพักผ่อนแบบมุงหญ้าคาเรียงรายไว้สำหรับให้ท่านได้นั่งพักผ่อนกัน ทางด้านฝั่งขวาของถนนก็เป็น มุมของอาหารการกิน และสินค้าของฝากอีกหลายชนิด เรียงเป็นแถวยาว มีทั้งสินค้าของดีเมืองสิงห์ และจังหวัดในแถบภาคกลาง ถ้าหิวอยากกินของอร่อย ก็เชิญได้เลย หรือถ้าอยากซื้อของฝากติดไม้ติดมือกลับบ้านก็สามมารถเลือกซื้อได้อย่างจุใจแน่นอนสินค้าเขามีเยอะจริง ๆ ครับ ฝั่งตรงข้าม ก็เป็นมุมของการบริการนวดแผนไทยที่ชาวบ้านจักรสีห์เขาเอาภูมิปัญญาท้องถิ่นมาเสนอให้กับคนที่เข้ามาทำบุญที่วัด ใครที่ปวดเมื่อยหรืออยากนวดเพื่อผ่อนคลายก็เชิญได้เลย และยังช่วยสนับสนุนชาวท้องถิ่นให้มีรายได้เพิ่มขึ้นและช่วยรักษาภูมิปัญญาท้องถิ่นให้คงอยู่ต่อไป

ก่อนทางเข้าไปยังวิหาร ก็เป็นจุดทำบุญถวายสังฆทานกับท่านพระอาจารย์ เพื่อความเป็นสิริมงคลให้กับตนเอง จัดบริการดอกไม้ธูปเทียนพร้อม หรือถ้าใครเป็นชาวไทยเชื้อสายจีนหรือคนที่นับถือองค์เจ้าแม่กวนอิมในบริเวณนี้ก็มี ศาลของเทพเจ้าของพี่น้องชาวไทยเชื้อสายจีนจีนไห้กราบไหว้กันอีกด้วย มีองค์เจ้าแม่กวนอิม ประดิษฐานอยู่ด้านใน
วิหารพระนอนจักรสีห์มีขนาดใหญ่มาก ๆ ด้านหน้าทางเข้าไปยังวิหารมีต้นสาละลังกาขนาดใหญ่ ต้นไม้สำคัญในพุทธประวัติ ที่ผลิดอกบานสะพรั่งสวยงามอยู่เสมอ ทางด้านหน้าตัววิหารมีหนังใหญ่จัดไว้ไห้ดู 4-5 แบบและของโบราณหลายชิ้น เช่นเรือโบราณ ฯลฯ ด้านนอกจัดเป็นสถานที่จุดธูปเทียนบูชาก่อนเข้าไปปิดทององค์พระนอนจักรสีห์ทางด้านใน ตัววิหารเป็นรูปแบบศิลปกรรมอย่างไทยสวยงามทั้งด้านในและด้านนอก ตรงประตูทางเข้า จัดเป็นมุมของวัตถุมงคลที่ทางวัดจัดสร้างมีหลายแบบหลายรุ่นไว้สำหรับคนที่ต้องการเช่าบูชาติดตัวเพื่อเป็นที่ยึดเหนี่ยวทางด้านจิตใจ มีคนเข้าไหว้องค์พระนอนภายในวิหารเยอะพอสมควรบรรยากาศภายในวิหารเต็มไปด้วยผู้คนที่เดินไปมา

พระนอนองค์ใหญ่มาก ๆ มีความเก่าและมีพุทธลักษณะที่งดงามยิ่ง ถือว่าเป็นพระพุทธรูปที่สำคัญของเมืองไทย อีกองค์หนึ่งครับ จะมีผ้าจีวรคลุมด้านบนองค์พระนอน ซึ่งจะมีการสลักชื่อของคนที่เข้ามาร่วมพิธีเปลี่ยนผ้าด้วย เขาจะจัดพิธี ทำบุญใหญ่และเปลี่ยนผ้าให้องค์พระนอน ในวันที่ 15 เมษายน ของทุกปี ชาวบ้านบอกว่ามีคนเข้ามาร่วมพิธีแน่นวัดไปหมด ใครอยากร่วมทำบุญก็เชิญได้เลยเขาจัดทุกปีตรวจสอบวันเวลาที่แน่นอนก่อนเดินทาง ถือว่าเป็นพระพุทธรูปที่มีผู้คนเคารพศรัทธาเป็นจำนวนมาก ครับ

ทางด้านในวิหารนอกจากมีองค์พระนอนแล้วก็ยังมีพระพุทธรูปที่สำคัญอีกคือ หลวงพ่อพระแก้วและหลวงพ่อพระกาฬ ซึ่งในสมันราชการที่ 5 ใช้เป็นพระประธานในการ ดื่มน้ำพิพัฒน์สัตยา ของข้าราชการในสมัยนั้น(หรือการสาบานตนก่อนเข้าทำงานครับ) ถ้าใครทำผิดกับคำสาบานก็จะมีอันเป็นไป มีความศักดิ์สิทธิ์มากประดิษฐานอยู่ทางด้านบนขององค์พระนอน
ภายในวิหารยังมีพระอันดับหรือพระพุทธรูปปางต่าง ๆ ซึ่งเป็นพระพุทธรูปคู่บารมี ขององค์พระนอนถือว่ามีความเก่าแก่เป็นอย่างมาก และเป็นศิลปะการสร้างที่งดงามวิจิตร นอกจานั้นยังมีพระพุทธรูปปางต่าง ๆ ตั้งแต่สมัยกรุงสุโขทัย ลพบุรี อีกหลายองค์ไห้กับประชาชนได้กราบไหว้บูชา มีของเก่าในลุ่มแม่น้ำน้อย ลุ่มน้ำป่าสัก และที่ค้นพบภายในวัดแห่งนี้อีกหลายชิ้น เครื่องเบญจรงค์สวยงามมาก ๆ จัดแสดงให้เราได้ชมอย่างตื่นตาตื่นใจกันทั่วหน้า นอกจากนั้นยังจัดแสดงเกี่ยวกับเงินไทยตั้งแต่สมัยอดีตจนถึงปัจจุบัน มีทั้งแบงค์ทั้งเหรียญ ทำไห้เราได้เห็นเงินที่เขาใช้กันในอดีตว่าเป็นอย่างไร มีตั้งแต่ แบงค์ห้าสิบสตางค์ แบงค์หนึ่งบาท เรียกว่าเข้ามาภายในวิหารคุ้มเลยครับ นอกจากได้ไหว้องค์พระนอนแล้วเรายังสามารถใช้เป็นแหล่งศึกษาหาความรู้ได้อีกทางหนึ่งครับ
หลังจากเหน็ดเหนื่อยจาการกราบไหว้พระนอนและชมของโบราณต่าง ๆ แล้ว ก็เชิญที่ศาลาทานบารมี กันเลยครับ ทางด้านในมี น้ำดื่มเย็น ๆ และข้าวต้ม คอยบริการผู้ที่เข้ามาทำบุญที่วัด ข้าวต้มก็รสอร่อยน้ำดื่มก็สดชื่นครับ มีแม่ครัวก็เป็นชาวบ้านในละแวกนั้นที่เข้ามาช่วยกันทำอาหารเห็นภาพแล้วประทับใจมาก คนไทยอยู่ที่ไหนก็สามัคคีกันได้ และมีน้อง ๆนักเรียนคนในหมู่บ้านที่พากันเข้ามาช่วยทางวัดล้างถ้วยล้างจานน่ารักมาก ๆครับ ขอไห้ทำดีแบบนี้ต่อไปนะครับน้อง ๆ สุดยอดเด็กดี ขอยกนิ้วไห้เลย วัดพระนอนจักรสีห์เป็นวัดที่สำคัญของพี่น้องชาวสิงห์บุรีและพุทธศาสนิกชนทั้งหลาย มีองค์พระพุทธไสยาสน์องค์ใหญ่ที่สุดของเมืองไทยและมีความศักดิ์สิทธิ์เป็นอย่างมาก เป็นปูชนียวัตถุที่ทรงไว้ซึ่งปาฏิหาริย์ล้ำค่า เป็นที่พึ่งที่ยึดเหนี่ยวทางจิตใจของเหล่าพุทธศาสนิกชนทั้งหลาย เป็นโบราณสถานที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์และมีความงดงามทางด้านวัฒนธรรมของเมืองไทยมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน เป็นสถานที่อันทรงคุณค่าที่เราต้องช่วยกันทำนุบำรุงให้คงอยู่คู่กับท้องฟ้าเมืองไทยของเราต่อไปอีกนานเท่านาน ถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมของจังหวัดสิงห์บุรีและของไทยเราอีกแห่งหนึ่งครับ

วัดระนอนจักรสีห์นอจากมีพระนอนองค์ใหญ่และศักดิ์สิทธิ์แล้วยังตั้งอยู่ในเส้นทางท่องเที่ยวเมืองสิงห์บุรี หลังจากสักการะพระนอนศักดิ์สิทธ์แล้วก็เดินทางไปไหว้หลวงพ่อแพองค์ใหญ่ต่อที่วัดพิกุลทอง จากนั้นก็เลยไปดูประวัติศาสตร์ผู้กล้าเมืองสิงห์ ที่ ค่ายบางระจันนมัสการพระอาจารย์ธรรมโชติ หรือ จะไปดูวัตถุโบราณในลุ่มแม่น้ำน้อยก็ไม่ไกลกันมากนัก แล้วเดินทางต่อไปดูวัดเก่าที่วัดหน้าพระธาตุหรือจะเข้าตัวเมืองหาของอร่อยกินหรือพักค้างแรม ก็เดินทางได้สบายครับ เที่ยวเมืองสิงห์บุรีกันให้ทั่วไปเลย
วัดพระนอนจักรสีห์ตั้งอยู่ที่ ต.จักรสีห์ อ.เมือง จ .สิงห์บุรี วัดเปิดให้เข้าชมและนมัสการพระนอนได้ทุกวัน วิหารพระนอนเปิดให้เขานมัสการทุกวัน วันจันทร์-ศุกร์เปิด 8.00-17.00 น. ,วันเสาร์-อาทิตย์และวันหยุดต่าง ๆ เปิด 7 .30-17.30 น. สอถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ วัดพระนอนจักรสีห์วรวิหารโทร 036-520251 หรือ 036-422768-9 สอบถามข้อมูลก่อนเดินทางครับ

การเดินทางก็ไม่ยากครับ เดินทางโดยรถยนต์ เดินทางมาบนถนนสายเอเชีย เลี้ยวซ้ายเข้าตัวเมืองสิงห์บุรี ข้ามสะพานแม่น้ำเจ้าพระยามา แล้วเลี้ยวซ้าย ตามเส้นทางนอกเมืองประมาณ 2 กิโลเมตร แล้วเลี้ยวขวาไปตามทางหมายเลข 3032 มุ่งตรงไป อ.ค่ายบางระจัน จากทางแยกไปประมาณ 5 กิโลเมตร วัดตั้งอยู่ทางซ้ายมือ มีป้ายบอกชัดเจนตลอดเส้นทาง เดินทางสะดวกครับ
การเดินทางโดยรถประจำทาง ก็ มีรถประจำทาง สาย 462 (สุพรรณบุรี - โคกสำโรง) และรถสองแถวประจำทาง สายสิงห์บุรี - ดอนปรู และสิงห์บุรี - ท่าช้าง รถผ่านหน้าวัดเลยจากนั้นก็เดินเท้าเข้าไปยังตัววัด ประมาณ 100 เมตร
วัดพระนอนจักรสีห์ถือว่าเป็นวัดคู่บ้านคู่เมืองของสิงห์บุรี มีองค์พระนอนศักดิ์สิทธิ์ในเราได้กราบไว้บูชา และมีความเชื่อกันมานานแล้วว่า ถ้าใครที่ได้เช้ามากราบไหว้องค์พระนอนจักรสีห์แล้ว ชีวิตจะมีแต่ความสุข ร่างกายแข็งแรงไม่มีโรคภัยไข้เจ็บเข้ามาเบียดเบียนจึง มีผู้คนจำนวนมากจากทั่วสารทิศ เดินทางมากราบไหว้องค์พระนอนจักรสีห์ ในทุก ๆวัน หากท่านใดมีโอกาสมาจังหวัดสิงห์บุรีก็อย่าลืมแวะเข้าไปไหว้องค์พระนอนศักดิ์สิทธิ์และทำบุญไหว้พระที่วัดพระนอนจักรสีห์วรวิหารกันนะครับ การเข้าวัดทำบุญนั้นทำได้ทุก ๆ โอกาสและฤดูกาล เอาไว้คราวหน้าเราจะพาไปทำบุญไหว้พระวัดสำคัญแบบนี้กันอีกนะครับ เที่ยวเมืองไทยแล้วขอให้ทุกท่านร่างกายแข็งแรงนะครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

มาฟังเพลงใหม่ ๆ กับ DJ.Meemeo